Movie Review We Live in Time (2024) That Time, Me and You
Movie Review We Live in Time (2024) That Time, Me and You
Blog Article
รีวิวหนัง We Live in Time (2024) เวลานั้นฉันและเธอ
ประเภทของภาพยนตร์: ดรามา / โรแมนติก
วันที่เข้าฉาย: 31 ตุลาคม 2024
ผู้กำกับ: จอห์น ครอวลีย์
นักแสดงนำ: แอนดรูว์ การ์ฟิลด์, ฟลอเรนซ์ พิว
ความยาว : 107 นาที
เรื่องย่อ:
ดูหนังฟรี เรื่องราวเกิดขึ้นในขณะที่ โทเบียส ดูรันด์ ออกไปซื้อปากกาเพื่อเซ็นเอกสารหย่าที่ภรรยาส่งมาให้ ดันเกิดเดินออกไปกลางถนนและถูกรถที่ขับโดยอัลมุต บรูห์ล อดีตนักสเก็ตลีลาที่ผันตัวมาเป็น เชฟอาหาร บาวาเรียฟิวชั่นชนเข้า ที่โรงพยาบาล อัลมุตเสนอที่จะพาโทเบียสและภรรยาไปทานอาหารที่ร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่ แม้ว่าโทเบียสจะไม่ยอมเปิดเผยเรื่องหย่าของเขาให้เธอฟังก็ตาม
คืนที่รับประทานอาหารเย็น โทเบียสซึ่งแยกทางกันแล้ว ไปที่ร้านอาหารเพียงลำพังเพื่อแจ้งข่าวการหย่าร้างของเขาให้อัลมุตทราบ ทั้งสองไปที่อพาร์ตเมนต์ของอัลมุตหลังรับประทานอาหารเย็นและมีเซ็กส์กัน พวกเขาเริ่มใช้ชีวิตร่วมกันไม่นานหลังจากนั้น
หลายเดือนต่อมา โทเบียสแสดงความปรารถนาต่ออัลมุตที่อยากจะเริ่มต้นครอบครัวกับเธอ และเขาเริ่มตกหลุมรักเธอแล้ว เธอปฏิเสธเขาอย่างหยาบคาย และเขาก็จากไปโดยไม่พูดอะไร ต่อมา ในงานปาร์ตี้ต้อนรับลูกของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของอัลมุต โทเบียสแอบเข้ามาและขอโทษอัลมุตที่รีบร้อน พร้อมทั้งวิจารณ์วิธีที่เธอตอบสนองต่อเขาต่อหน้าแขกทุกคน เขาสารภาพรักกับเธออีกครั้ง และพวกเขาก็คืนดีกัน
อัลมุตพบว่าตนเองเป็นมะเร็งรังไข่และอธิบายให้เขาฟังว่าสูตินรีแพทย์แนะนำให้เธอผ่าตัดมดลูกเพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งลุกลาม แม้ว่าโทเบียสจะตั้งใจเคารพการตัดสินใจของอัลมุต แต่เธอกลับเลือกที่จะเข้ารับการรักษาจนกว่ามะเร็งจะหายในที่สุด หลังจากพยายามมีลูกหลายครั้ง โทเบียสและอัลมุตก็มีความสุขเมื่อเธอสามารถตั้งครรภ์ได้ ในคืนส่งท้ายปีเก่า เธอให้กำเนิดทารกเพศหญิงในห้องน้ำปั๊มน้ำมันหลังจากที่รถของเธอและโทเบียสติดอยู่ในจราจรระหว่างทางไปโรงพยาบาล
ประมาณสามปีต่อมา อัลมุตซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าเชฟของร้านอาหารขนาดใหญ่ของตัวเองและได้ย้ายไปอยู่กระท่อมและฟาร์มเล็กๆ กับครอบครัว เริ่มรู้สึกปวดเอว เมื่อไปถึงโรงพยาบาล อัลมุตและโทเบียสได้ทราบว่ามะเร็งของเธอลุกลามไปถึงระยะที่ 3 และเธอจะต้องเริ่มทำเคมีบำบัดโดยเร็วที่สุดก่อนที่จะทำการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก แม้ว่าจะยังไม่มีการรับประกันว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ก็ตาม
อัลมุตลังเลที่จะเข้ารับการรักษาอีกครั้ง จึงเสนอให้ใช้ชีวิต “6 ถึง 8 เดือนอันยิ่งใหญ่” แทนที่จะใช้เวลาช่วงเดือนสุดท้ายอย่างเจ็บป่วยและทรมาน พวกเขาอธิบายสถานการณ์ให้เอลลา ลูกสาวตัวน้อยฟัง หลังจากโทเบียสขอแต่งงานกับอัลมุตในที่สุด เธอก็ตัดสินใจเข้ารับการรักษา
ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เธอได้รับการวินิจฉัยโรค อัลมุตได้รับคำเชิญจากไซมอน เพื่อนร่วมงานของเธอให้เข้าร่วมการแข่งขัน ทำอาหาร Bocuse d'Orซึ่งถือได้ว่าเป็นการแข่งขันทำอาหารที่ทรงเกียรติที่สุดในโลก แม้ว่าการฝึกฝนของเธอจะขัดแย้งกับการรักษาและงานแต่งงานของเธอ แต่เธอก็ตกลงที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน อัลมุตและ เจด ผู้ช่วย ของเธอ ชนะการคัดเลือกจากสหราชอาณาจักรและเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่การแข่งขันจะจัดขึ้นที่อิตาลีในวันที่อัลมุตและโทเบียสวางแผนจะจัดพิธีแต่งงาน
เมื่อโทเบียสค้นพบเรื่องนี้ เขาจึงดุเธออย่างโกรธเคืองที่เลือกการแข่งขันมากกว่าชีวิตและครอบครัวของเธอ และอัลมุตตอบว่าเธออยากให้ลูกสาวจดจำเธอในฐานะเชฟที่เก่งกาจมากกว่าที่จะเป็นเพียงคนที่เธอเห็นป่วยและตายไป เขาจึงยกเลิกงานแต่งงานอย่างไม่เต็มใจและตกลงกับอัลมุตที่จะฝึกซ้อมต่อเพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศ
ในเดือนมิถุนายนที่อิตาลี โทเบียสและเอลลาเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ Bocuse d'Or และดูอัลมุตทำอาหาร เมื่อเธอเริ่มอ่อนแรงลงและเริ่มลังเลเมื่อจัดจานอาหารจานสุดท้ายเสร็จ เธอจึงปล่อยให้เจดควบคุม และพวกเขาก็ทำเสร็จทันเวลา อัลมุตรีบออกเดินทางกับโทเบียสและลูกสาวของพวกเขา และพวกเขาก็ไปเล่นสเก็ตที่ลานน้ำแข็งใกล้ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน โทเบียสและเอลลาก็กลับบ้านจากเล้าไก่เพียงลำพังพร้อมกับสุนัขตัวใหม่ของพวกเขา ซึ่งอัลมุตและโทเบียสเคยคิดจะเลี้ยงให้เอลลาเพื่อช่วยเรื่องจิตใจในกรณีที่แม่ของเธอเสียชีวิต จากนั้นโทเบียสก็สอนลูกสาวตอกไข่เหมือนกับที่แม่ของเธอเคยสอนเขา
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:
We Live in Time ได้ "นิค เพย์น" จากหนังรักน้ำเน่าของเน็ตฟลิกซ์ อย่าง The Last Letter from Your Lover มาปั้นเรื่องให้ ที่แน่นอนว่าการละเลงบทหนังของเขาก็ยังเต็มไปด้วยกิมมิกที่หนังรักพึงมี เอาจริง ๆ พล็อตหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้สร้างความต่างหรือแปลกใหม่ใด ๆ มันออกจะเป็นสไตล์หนังรักจากฝั่งญี่ปุ่นหรือเกาหลีที่ผลิตออกมาเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันมาอยู่ในแวดล้อมและจังหวะในความเป็นบริติช จึงกลายออกมาเป็นความรักที่ขยี้ดรามาอีกโทนที่น่าสนใจ 2umv.com
สารภาพตรง ๆ ว่าทีแรกก็ไม่ได้ค่อยปลื้มเท่าไหร่ กับจังหวะการร้อยเรียงและเล่าเรื่องของหนังในรูปแบบที่กระโดดไปมา ชวนหงุดหงิดในอารมณ์ไม่น้อย แต่พอเสพเนื้อหาไปเรื่อย ๆ ก็พบว่าลีลาที่พวกเขาตั้งใจหยอดใส่เข้ามานั้น กลายเป็นความกลมกล่อมอย่างน่าประหลาดและอธิบายไม่ถูกเช่นกัน เมื่อเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ จนไปถึงในช่วงท้าย ก็กลายเป็นเหมือนจุดปลดล็อกใหญ่ ๆ ที่ม้วนสรุปได้อย่างน่าประทับใจ ในแบบที่เราก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าจะม้วนหน้ามาแตะระดับนี้ได้
ขณะที่องค์ประกอบงานสร้างใน We Live in Time ก็ออกมาค่อนข้างดีงาม แม้ว่าทีมงานชาวอังกฤษส่วนใหญ่จะเพิ่งมาร่วมงานกันในหนังเรื่องนี้ แต่งานถ่ายภาพของ "สจ๊วต เบนท์ลีย์" (จากซีรีส์ Black Mirror) ก็ถ่ายทอดฟีลลิ่งแห่งความสัมพันธ์ได้อย่างอบอุ่นและขึงขังได้ในเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกับงานประพันธ์ดนตรีของ "ไบรซ์ เดสเนอร์" (จาก Cyrano) ซาวน์ดนตรีของเขาก็ช่วยผลักดันและสนับสนุนตัวหนังให้จัดจ้านขึ้น
และไฮไลต์เด่นสุด ๆ ของหนังเรื่องนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น 2 นักแสดงนำ "แอนดรูว์ การ์ฟิลด์" กับ "ฟลอเรนซ์ พิว" ที่พูดตรง ๆ นี่คือผลงานหนังที่อาจจะไม่ได้ท้าทายฝีมืออะไรของพวกเขามากนัก แต่ก็เป็นอีกชิ้นงานที่เต็มไปด้วยความทุ่มเทพยายามในการถ่ายทอดอารมณ์ ในจังหวะรับส่งบทกันอย่างมืออาชีพเขาทำกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลายเป็นเสมือนแหล่งทองคำชั้นดีที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ เพราะพลังการแสดงของทั้งสองได้ช่วยส่งเสริมให้ตัวหนังทรงพลังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ท้ายที่สุดแล้ว We Live in Time เวลานั้นฉันและเธอ อาจจะเป็นแค่หนังรักดรามาพล็อตไม่ได้ใหม่ ที่คนดูอาจจะคุ้นเคยและเดาทิศทางกันได้ แต่จุดเด่นของหนังเรื่องนี้กลายเป็นการเล่าเรื่องและทิศทางที่โดดไปมาแต่กลับชวนประทับใจได้อย่างแปลกประหลาด พ่วงด้วยพลังทางการแสดงของ 2 ดารานำที่ช่วยขับเคลื่อนตัวหนังเรื่องนี้ได้ข้างหน้าได้อย่างทรงพลัง เรียกได้ว่าแค่มาดู แอนดรูว์ กับ ฟลอเรนซ์ กระทำการแสดงในหนังเรื่องนี้ก็คืนกำไรให้คนดูแล้วจริง ๆ
#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #WeLiveinTime #เวลานั้นฉันและเธอ
กลับด้านบน Report this page